ด้วยการผสมผสานข้อได้เปรียบของโมเดลอุตสาหกรรม 4.0 เข้ากับระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งในอุตสาหกรรม (IIoT) เราจึงสามารถเพิ่มความเร็วและความแม่นยำให้กับการดำเนินการของโรงงานที่หลากหลาย เพื่อเสริมสร้างผลิตผลและความน่าเชื่อถือ วิวัฒนาการที่รวดเร็วและการผสานรวมของเทคโนโลยีดังกล่าวทั่วทั้งองค์กรกำลังแปลงโฉมวิธีดำเนินงานและวิธีการผลิตสินค้าคุณภาพสูงของผู้ผลิตหลายราย
ประโยชน์ที่ได้:
- ลดการตรวจสอบตามช่วงเวลาและด้วยตนเอง
- เพิ่มผลิตผล
- ลดต้นทุนการผลิต
- ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์
- เพิ่มความยืดหยุ่น
- ปรับปรุงความปลอดภัย
ด้านล่างคือระดับการใช้งานหลัก ๆ ของระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม
ระดับที่ 1 - ระดับสั่งการ:
ส่วนใหญ่เป็นระบบที่ใช้ PC เป็นหลัก เช่น PC อุตสาหกรรม (ติดตั้งบนชั้นอุปกรณ์และแผงควบคุม) ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ควบคุมกระบวนการโดยเฉพาะของซัพพลายเออร์ เพื่อการกำหนดพารามิเตอร์และการแสดงภาพ การสื่อสารระหว่างกันจะใช้ Gbit LAN หรือแกนหลักแบนด์วิดท์ที่สูงกว่า หรือโทโพโลยีไร้สาย (WLAN) เป็นหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญหายของข้อมูลและด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย จึงมีการติดตั้งแหล่งจ่ายไฟสำรอง (UPS)
ส่วนประกอบหลัก: พีซีอุตสาหกรรม, พีซีชนิดแผงควบคุม, HMI, WLAN
ระดับที่ 2 - ระดับควบคุม:
เป็นระดับของระบบอัตโนมัติที่โปรแกรมอัตโนมัติต่าง ๆ จะทำงาน ระบบในระดับนี้จำเป็นต้องมีความสามารถแบบเรียลไทม์สูง และมีสถาปัตยกรรมการควบคุมพิเศษ โดยใช้ OS กรรมสิทธิ์เฉพาะของตนในการทำงาน โปรโตคอลบัสการสื่อสารระหว่างกันที่ตรงตามกฎข้อกำหนดแบบเรียลไทม์สูง (สอดคล้องกับ IEEE 1588) เป็นสิ่งสำคัญในระดับนี้
ส่วนประกอบหลัก: PLC, HMI, ฟิลด์บัส (CAN, EtherCAT, Profibus ฯลฯ), WLAN, ค่าระดับความปลอดภัย (SIL)
ระดับที่ 3 - ระดับฟิลด์:
ระดับนี้ประกอบด้วยอุปกรณ์เทอร์มินัลทั้งหมด เช่น เซนเซอร์และแอคทูเอเตอร์ ซึ่งทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่อพ่วง PLC หรือระบบ I/O ระยะไกล เพื่อมอบการประมวลผลข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ล่วงหน้าและการสื่อสารกับ PLC หลักผ่านฟิลด์บัส
ส่วนประกอบหลัก: Micro PLC, การควบคุมมอเตอร์, เซนเซอร์อุตสาหกรรม, ตัวขับแอคทูเอเตอร์, รีเลย์, สวิตช์, การควบคุมไร้สาย (RFID, เครือข่ายเซนเซอร์ไร้สายที่ใช้โทโพโลยี IEEE 802.15.4)